เจาะลึก 6 กระบวนการรับผลิตงานสแตนเลสตามแบบ ตั้งแต่ดีไซน์ถึงขั้นตอนติดตั้ง

สแตนเลสถือเป็นวัสดุที่ครองใจทั้งในงานอุตสาหกรรมและงานตกแต่ง ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน และมีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย แต่การจะได้งานสแตนเลสที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริงนั้น ไม่ใช่แค่การเลือกวัสดุที่ดีเท่านั้น กระบวนการผลิตตั้งแต่การเก็บข้อมูลความต้องการ ออกแบบ เลือกเกรดวัสดุ การตัด ขึ้นรูป เชื่อม ประกอบ ไปจนถึงติดตั้งและดูแลหลังใช้งาน ล้วนมีผลต่อคุณภาพของงานทั้งหมด
Surasak Engineering จะพาคุณไปรู้จักทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตอย่างง่าย ๆ ของโรงงานรับผลิตงานสแตนเลสตามแบบเพื่อให้เห็นภาพรวมและสามารถตรวจเช็กงานได้ด้วยตัวเอง

6 กระบวนการรับผลิตงานสแตนเลสตามแบบ

1. ความต้องการและการออกแบบ

การรับผลิตงานสแตนเลสตามแบบเริ่มจากการทำความเข้าใจ “โจทย์” ให้ชัด เช่น ใช้ในโรงงานอาหาร, โรงพยาบาล, งานตกแต่งบ้าน หรือโครงสร้างภายนอก เพราะแต่ละงานมีเงื่อนไขแตกต่างกัน เช่น ความชื้นสูง การสัมผัสสารเคมี หรือความร้อนจัด
จากนั้นจึงเลือกเกรดสแตนเลสที่เหมาะ เช่น สแตนเลส 304 สำหรับงานทั่วไป หรือ 316L สำหรับงานที่ต้องต้านการกัดกร่อนสูง เช่น โรงงานเคมีหรือใกล้ทะเล
เมื่อได้ข้อมูลครบแล้ว จึงออกแบบด้วยโปรแกรม CAD เพื่อกำหนดขนาด รูปร่าง จุดเชื่อม และรายละเอียดต่าง ๆ ให้ผลิตออกมาได้จริงและประกอบได้พอดี

2. การตัดและขึ้นรูปชิ้นงาน

เมื่อแบบพร้อม ขั้นตอนต่อไปคือการแปลงแผ่นสแตนเลสให้เป็นชิ้นส่วนตามแบบ วิธีตัดที่ใช้มีทั้ง เลเซอร์, วอเตอร์เจ็ท หรือพลาสม่า เลือกตามความหนาและความละเอียดที่ต้องการ
หลังจากนั้นจะเป็นการ พับหรือขึ้นรูป ให้ได้มุมและโค้งตามแบบ ซึ่งต้องแม่นยำ เพราะหากพลาดเพียงไม่กี่มิลลิเมตร อาจประกอบไม่ได้หรือต้องเสียเวลาทำใหม่

3. งานเชื่อมและการประกอบ

การเชื่อมคือขั้นตอนที่ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ กลายเป็นงานสำเร็จรูป วิธีที่นิยม เช่น TIG Welding ที่รอยเชื่อมเรียบ สวยงาม และแข็งแรง ที่ทำได้รวดเร็ว เหมาะกับงานโครงสร้าง
ระหว่างเชื่อมต้องควบคุมความร้อน ป้องกันการโก่งตัวของชิ้นงาน และใช้ลวดเชื่อมเกรดเดียวกับสแตนเลสหลัก เพื่อให้ความแข็งแรงและความทนทานเท่ากัน
เมื่อเชื่อมเสร็จ จะประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน พร้อมตรวจเช็กว่าตรงตามแบบทุกประการ

4. การทำผิวและตรวจสอบคุณภาพ

งานสแตนเลสที่ดีต้องไม่เพียงแข็งแรง แต่ยังสวยงามและปลอดภัยต่อการใช้งาน
ขั้นแรกคือการทำความสะอาดรอยเชื่อมและคราบต่าง ๆ จากนั้นสร้างฟิล์มป้องกันสนิม (Passivation) เพื่อยืดอายุการใช้งาน
บางงานต้องขัดผิวให้เงามัน หรือขัดแบบซาตินเพื่อให้ล้างง่ายและดูสวยงาม
สุดท้ายคือการตรวจสอบคุณภาพ เช่น วัดขนาด, เช็กความแข็งแรง, ทดสอบการรั่วซึม (สำหรับงานถังหรือท่อ) เพื่อให้มั่นใจว่างานพร้อมใช้งานจริง

5. การติดตั้งและส่งมอบ

ก่อนติดตั้ง ต้องสำรวจหน้างาน เช่น ขนาดพื้นที่, จุดยึด, ระดับพื้น เพื่อเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
การติดตั้งควรทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ปรับระดับให้ตรง ตรวจสอบการทำงาน และแก้ไขจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทันที
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย จะทำการส่งมอบงานพร้อมคำแนะนำการใช้งานและการดูแล เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าพร้อมใช้งานทันที

6. การดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน

แม้สแตนเลสจะขึ้นชื่อว่าทนทาน แต่ถ้าดูแลไม่ถูกวิธี ก็อาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ จึงควรดูแลอย่างถูกต้องด้วยวิธีดังนี้

• ทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่อ่อน ๆ หลีกเลี่ยงสารที่มีคลอไรด์สูง
• เช็ดให้แห้งหลังทำความสะอาด เพื่อลดความชื้นสะสม
• ตรวจสอบรอยเชื่อมและชิ้นส่วนยึดเป็นระยะ หากพบคราบสนิมจุดเล็ก ๆ ให้รีบทำความสะอาดและซ่อมแซมทันที

สรุป

การ รับผลิตงานสแตนเลสตามแบบ ที่ได้คุณภาพ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัสดุเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การเก็บข้อมูลและออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง เลือกเกรดสแตนเลสที่เหมาะสม ผลิตด้วยเทคนิคที่แม่นยำ ควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด และติดตั้งอย่างถูกวิธี รวมถึงการดูแลรักษาหลังการใช้งานเพื่อยืดอายุชิ้นงานให้ยาวนานที่สุด
สำหรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของโปรเจกต์ที่ต้องการชิ้นงานสแตนเลสที่ทั้งแข็งแรง สวยงาม และตรงตามแบบ Surasak Engineering คือพาร์ตเนอร์ที่คุณวางใจได้ ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี มาตรฐานการผลิตระดับสากล และทีมงานที่พร้อมดูแลตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบจนถึงการส่งมอบงาน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับงานที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในระยะยาว